top of page

เทรนด์การพัฒนา Software ที่ธุรกิจไทยควรจับตามอง

เทรนด์การพัฒนา Software ที่ธุรกิจไทยควรจับตามอง

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าซอฟต์แวร์ในองค์กรของคุณสามารถแนะนำการตัดสินใจได้แบบอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมขายทำงานได้เร็วขึ้น เชื่อมต่อกับคู่ค้าและลูกค้าได้แบบไร้รอยต่อ และยังปรับตัวได้ตามพฤติกรรมของผู้ใช้มันจะดีแค่ไหน สิ่งนี้คือ "ซอฟต์แวร์ยุค 2025"


ซอฟต์แวร์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแค่ตอบสนองคำสั่งอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นเครื่องมือที่วิเคราะห์ คาดการณ์ และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ บทความนี้เราจะพูดถึง 7 เทรนด์หลักที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการพัฒนา Software ทั่วโลก เพื่อให้ธุรกิจในไทยไม่ตกขบวน


1) AI-Powered Software: ซอฟต์แวร์ที่เรียนรู้และปรับตัวได้

AI ไม่ใช่แค่ Buzzword อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ของจริง" ในแอปและซอฟต์แวร์ทั่วทุกมุมโลก การพัฒนาซอฟต์แวร์ในยุคนี้จึงต้องมีการผสาน AI เข้าไปในระบบหลักขององค์กร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้แบบเฉพาะเจาะจงและแม่นยำมากขึ้น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือระบบ HR ที่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงการลาออกของพนักงานและเตือนให้ผู้บริหารทราบล่วงหน้า ระบบ E-commerce ที่แนะนำสินค้าแบบเฉพาะบุคคลจากการเรียนรู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละราย หรือโปรแกรมบัญชีที่ช่วยคาดการณ์กระแสเงินสดและให้คำแนะนำการบริหารทางการเงิน ธุรกิจที่ผสาน AI เข้าไปในซอฟต์แวร์ของตัวเองจะสามารถตอบสนองลูกค้าได้ก่อนที่เขาจะรู้ว่าต้องการอะไร


2) Low-code / No-code Development: พัฒนาไวขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น

แพลตฟอร์มประเภท Low-code และ No-code กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมากในปัจจุบัน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ทีมธุรกิจสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันหรือระบบ Workflow ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดมาก หรือบางกรณีไม่ต้องเขียนโค้ดเลย ซึ่งช่วยลดการพึ่งพานักพัฒนาเต็มรูปแบบและเพิ่มความคล่องตัวในการสร้างระบบงาน

แนวทางนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในองค์กรที่ต้องการความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนระบบงาน และต้องการเปิดโอกาสให้ทีมที่ไม่ใช่ IT มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรม การมี Citizen Developer หรือนักพัฒนาจากทีมธุรกิจทำให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการภายในได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น


3) API-first Development: พัฒนาแบบเน้นการเชื่อมต่อ

การวางแผนพัฒนาระบบโดยยึดหลัก API-first หมายถึงการออกแบบ API หรือส่วนติดต่อระหว่างระบบก่อน แล้วจึงพัฒนา Frontend และ Backend ตามหลัง แนวคิดนี้ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างระบบต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรทำได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น

API-first Development ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายฟีเจอร์ เชื่อมกับระบบของพาร์ทเนอร์ หรือเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระบบสามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น การทำงานร่วมกันของทีมต่างๆ ในองค์กรก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า


4) Cloud-native Application: พร้อมใช้บน Cloud อย่างแท้จริง

Cloud-native ไม่ใช่แค่การย้ายระบบจาก On-premise ไปยัง Cloud แต่คือการออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันให้ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อม Cloud อย่างเต็มศักยภาพ การใช้เทคโนโลยีอย่าง Kubernetes สำหรับการจัดการ Container, Serverless สำหรับการทำงานแบบไม่ต้องจัดการ Server, และ Microservices สำหรับการแบ่งระบบใหญ่ออกเป็นส่วนย่อยที่ทำงานได้อิสระจากกัน

ซอฟต์แวร์แบบ Cloud-native ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยายขนาดระบบได้แบบอัตโนมัติตามปริมาณการใช้งาน และลดภาระด้าน Infrastructure Management ขององค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้การอัปเดตและบำรุงรักษาระบบทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น


5) Cybersecurity by Design: ความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทาง

จากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มากขึ้น โดยเฉพาะการรวมเรื่องความปลอดภัยเข้าไปในขั้นตอนการออกแบบระบบตั้งแต่เริ่มต้น หรือที่เรียกว่า Secure by Design

แนวคิด DevSecOps ซึ่งรวมเรื่อง Security เข้าไปในกระบวนการ Development และ Operations ตั้งแต่ต้น กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกธุรกิจต้องทำให้ได้ การทำ Security Testing แบบอัตโนมัติ การสแกนหาช่องโหว่ในโค้ด และการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องบูรณาการเข้าไปในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์


6) Hyperautomation: ผสาน RPA + AI + Software Development

Hyperautomation คือการรวมเครื่องมือหลายประเภทเข้าด้วยกัน ได้แก่ RPA (Robotic Process Automation), AI, Machine Learning, และเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อให้สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความเร็วในการประมวลผล และลดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ได้มากที่สุด

ในปี 2025 ธุรกิจที่นำ Hyperautomation มาใช้ในกระบวนการหลังบ้าน เช่น การจัดการเอกสาร การประมวลผลด้านการเงิน การบริหารทรัพยากรบุคคล หรือการจัดการคลังสินค้า จะสามารถเพิ่มประสิทธิภ

าพการทำงานได้แบบก้าวกระโดด การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่าการใช้เวลากับงานประจำที่ทำซ้ำ


7) Green Software Engineering: ซอฟต์แวร์รักษ์โลก

เทคโนโลยีไม่ควรเป็นปัจจัยที่ทำลายสิ่งแวดล้อม แนวคิด Green Software Engineering หรือการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสำคัญมากขึ้น การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบนี้เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น

วิธีการต่างๆ ที่นำมาใช้ ได้แก่ การเขียนโค้ดที่ประหยัดพลังงาน การลดขนาดของแอปพลิเคชัน การเลือกใช้ Algorithm ที่ใช้ทรัพยากรน้อย หรือการเลือกใช้ Cloud Provider ที่มีนโยบายใช้พลังงานสะอาด องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, Governance) จะเริ่มหันมาพิจารณาเรื่องนี้มากขึ้น เพราะการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อโลก แต่ยังช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานขององค์กรในระยะยาว


แนวทางสำหรับธุรกิจไทย: จะเริ่มต้นอย่างไร?

แนวทางสำหรับธุรกิจไทย: จะเริ่มต้นอย่างไร?

การนำเทรนด์เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจไทยต้องเริ่มจากการสำรวจและประเมินระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน ว่าระบบเดิมยังสามารถตอบโจทย์การทำงานได้หรือไม่ และมีความพร้อมที่จะต่อยอดพัฒนาหรือควรจะเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด

ขั้นตอนถัดมาคือการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าการพัฒนาระบบครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เป็นการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนการดำเนินงาน ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า หรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ดีขึ้น

การเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องนำทุกเทรนด์มาใช้ แต่ต้องเลือกสิ่งที่ตรงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและมีความพร้อมที่จะรองรับ การจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยีและเข้าใจบริบทของธุรกิจไทยจะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและประสบความสำเร็จมากขึ้น


เทคโนโลยี Software ไม่รอใคร ธุรกิจต้องพร้อมปรับตัว

ปี 2025 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านจากระบบงานแบบเดิมสู่ระบบที่ฉลาด ยืดหยุ่น และปลอดภัยมากขึ้น การพัฒนา Software ในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแผนกไอทีอีกต่อไป แต่คือการลงทุนในศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจโดยรวม องค์กรที่สามารถมองเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงและกล้าที่จะเริ่มต้นปรับตัวก่อนคู่แข่ง ย่อมจะได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางในการพัฒนา Software ให้ตอบโจทย์ความต้องการในยุคใหม่ X10 พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ในการออกแบบ พัฒนา และเชื่อมต่อซอฟต์แวร์เพื่อความสำเร็จในโลกดิจิทัล


ติดต่อทีม X10 

📞 02-693-1989 


 
 
 

Comments


logo extend it resource X10

PRODUCTs

MuleSoft Footer
Salesforce authorized cloud reseller footer
talend logo
X10-product-axway
elastic search logo

QUICK LINK

snowflake logo
camunda logo
hsg core bank footer
i-sprint-logo
Kong logo

We are founded by experienced IT resource management people who have international and local experiences. Working with us makes you rest assured that your Technology project will succeed in the time frame.

Bangkok , Thailand.

E-Mail : sales@extend-it-resource.com

Phone : 02-693-1989

confluent logo

SOCIAL MEDIA

  • Facebook
  • LinkedIn
bottom of page