เทรนด์การพัฒนา Software ที่ธุรกิจไทยควรจับตามอง
- Panisara Panem
- Aug 28
- 1 min read

ลองจินตนาการดูว่า ถ้าซอฟต์แวร์ในองค์กรของคุณสามารถแนะนำการตัดสินใจได้แบบอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมขายทำงานได้เร็วขึ้น เชื่อมต่อกับคู่ค้าและลูกค้าได้แบบไร้รอยต่อ และยังปรับตัวได้ตามพฤติกรรมของผู้ใช้มันจะดีแค่ไหน สิ่งนี้คือ "ซอฟต์แวร์ยุค 2025"
ซอฟต์แวร์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแค่ตอบสนองคำสั่งอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นเครื่องมือที่วิเคราะห์ คาดการณ์ และกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ บทความนี้เราจะพูดถึง 7 เทรนด์หลักที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการพัฒนา Software ทั่วโลก เพื่อให้ธุรกิจในไทยไม่ตกขบวน
1) AI-Powered Software: ซอฟต์แวร์ที่เรียนรู้และปรับตัวได้
AI ไม่ใช่แค่ Buzzword อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ของจริง" ในแอปและซอฟต์แวร์ทั่วทุกมุมโลก การพัฒนาซอฟต์แวร์ในยุคนี้จึงต้องมีการผสาน AI เข้าไปในระบบหลักขององค์กร เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้แบบเฉพาะเจาะจงและแม่นยำมากขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือระบบ HR ที่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงการลาออกของพนักงานและเตือนให้ผู้บริหารทราบล่วงหน้า ระบบ E-commerce ที่แนะนำสินค้าแบบเฉพาะบุคคลจากการเรียนรู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละราย หรือโปรแกรมบัญชีที่ช่วยคาดการณ์กระแสเงินสดและให้คำแนะนำการบริหารทางการเงิน ธุรกิจที่ผสาน AI เข้าไปในซอฟต์แวร์ของตัวเองจะสามารถตอบสนองลูกค้าได้ก่อนที่เขาจะรู้ว่าต้องการอะไร
2) Low-code / No-code Development: พัฒนาไวขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น
แพลตฟอร์มประเภท Low-code และ No-code กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมากในปัจจุบัน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ทีมธุรกิจสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันหรือระบบ Workflow ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดมาก หรือบางกรณีไม่ต้องเขียนโค้ดเลย ซึ่งช่วยลดการพึ่งพานักพัฒนาเต็มรูปแบบและเพิ่มความคล่องตัวในการสร้างระบบงาน
แนวทางนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในองค์กรที่ต้องการความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนระบบงาน และต้องการเปิดโอกาสให้ทีมที่ไม่ใช่ IT มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรม การมี Citizen Developer หรือนักพัฒนาจากทีมธุรกิจทำให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการภายในได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น
3) API-first Development: พัฒนาแบบเน้นการเชื่อมต่อ
การวางแผนพัฒนาระบบโดยยึดหลัก API-first หมายถึงการออกแบบ API หรือส่วนติดต่อระหว่างระบบก่อน แล้วจึงพัฒนา Frontend และ Backend ตามหลัง แนวคิดนี้ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างระบบต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรทำได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น
API-first Development ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายฟีเจอร์ เชื่อมกับระบบของพาร์ทเนอร์ หรือเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระบบสามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น การทำงานร่วมกันของทีมต่างๆ ในองค์กรก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
4) Cloud-native Application: พร้อมใช้บน Cloud อย่างแท้จริง
Cloud-native ไม่ใช่แค่การย้ายระบบจาก On-premise ไปยัง Cloud แต่คือการออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันให้ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อม Cloud อย่างเต็มศักยภาพ การใช้เทคโนโลยีอย่าง Kubernetes สำหรับการจัดการ Container, Serverless สำหรับการทำงานแบบไม่ต้องจัดการ Server, และ Microservices สำหรับการแบ่งระบบใหญ่ออกเป็นส่วนย่อยที่ทำงานได้อิสระจากกัน
ซอฟต์แวร์แบบ Cloud-native ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยายขนาดระบบได้แบบอัตโนมัติตามปริมาณการใช้งาน และลดภาระด้าน Infrastructure Management ขององค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้การอัปเดตและบำรุงรักษาระบบทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
5) Cybersecurity by Design: ความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทาง
จากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มากขึ้น โดยเฉพาะการรวมเรื่องความปลอดภัยเข้าไปในขั้นตอนการออกแบบระบบตั้งแต่เริ่มต้น หรือที่เรียกว่า Secure by Design
แนวคิด DevSecOps ซึ่งรวมเรื่อง Security เข้าไปในกระบวนการ Development และ Operations ตั้งแต่ต้น กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกธุรกิจต้องทำให้ได้ การทำ Security Testing แบบอัตโนมัติ การสแกนหาช่องโหว่ในโค้ด และการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องบูรณาการเข้าไปในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์
6) Hyperautomation: ผสาน RPA + AI + Software Development
Hyperautomation คือการรวมเครื่องมือหลายประเภทเข้าด้วยกัน ได้แก่ RPA (Robotic Process Automation), AI, Machine Learning, และเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อให้สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความเร็วในการประมวลผล และลดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ได้มากที่สุด
ในปี 2025 ธุรกิจที่นำ Hyperautomation มาใช้ในกระบวนการหลังบ้าน เช่น การจัดการเอกสาร การประมวลผลด้านการเงิน การบริหารทรัพยากรบุคคล หรือการจัดการคลังสินค้า จะสามารถเพิ่มประสิทธิภ
าพการทำงานได้แบบก้าวกระโดด การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่าการใช้เวลากับงานประจำที่ทำซ้ำ
7) Green Software Engineering: ซอฟต์แวร์รักษ์โลก
เทคโนโลยีไม่ควรเป็นปัจจัยที่ทำลายสิ่งแวดล้อม แนวคิด Green Software Engineering หรือการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความสำคัญมากขึ้น การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบนี้เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
วิธีการต่างๆ ที่นำมาใช้ ได้แก่ การเขียนโค้ดที่ประหยัดพลังงาน การลดขนาดของแอปพลิเคชัน การเลือกใช้ Algorithm ที่ใช้ทรัพยากรน้อย หรือการเลือกใช้ Cloud Provider ที่มีนโยบายใช้พลังงานสะอาด องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ ESG (Environmental, Social, Governance) จะเริ่มหันมาพิจารณาเรื่องนี้มากขึ้น เพราะการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อโลก แต่ยังช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานขององค์กรในระยะยาว
แนวทางสำหรับธุรกิจไทย: จะเริ่มต้นอย่างไร?

การนำเทรนด์เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจไทยต้องเริ่มจากการสำรวจและประเมินระบบที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน ว่าระบบเดิมยังสามารถตอบโจทย์การทำงานได้หรือไม่ และมีความพร้อมที่จะต่อยอดพัฒนาหรือควรจะเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด
ขั้นตอนถัดมาคือการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าการพัฒนาระบบครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เป็นการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนการดำเนินงาน ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า หรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้ดีขึ้น
การเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องนำทุกเทรนด์มาใช้ แต่ต้องเลือกสิ่งที่ตรงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจและมีความพร้อมที่จะรองรับ การจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยีและเข้าใจบริบทของธุรกิจไทยจะช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและประสบความสำเร็จมากขึ้น
เทคโนโลยี Software ไม่รอใคร ธุรกิจต้องพร้อมปรับตัว
ปี 2025 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านจากระบบงานแบบเดิมสู่ระบบที่ฉลาด ยืดหยุ่น และปลอดภัยมากขึ้น การพัฒนา Software ในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแผนกไอทีอีกต่อไป แต่คือการลงทุนในศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจโดยรวม องค์กรที่สามารถมองเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงและกล้าที่จะเริ่มต้นปรับตัวก่อนคู่แข่ง ย่อมจะได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาแนวทางในการพัฒนา Software ให้ตอบโจทย์ความต้องการในยุคใหม่ X10 พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ในการออกแบบ พัฒนา และเชื่อมต่อซอฟต์แวร์เพื่อความสำเร็จในโลกดิจิทัล
ติดต่อทีม X10
📞 02-693-1989
Comments