top of page

ทำอย่างไรเมื่อ HR เปลี่ยนไป AI มาแทน


ยุคนี้สมัครงานกับ AI ได้ด้วยเหรอ

AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของ HR ก็เช่นกัน ในบทความนี้เราเล่าให้ฟังว่า AI จะช่วยในการคัดเลือกพนักงานเข้าองค์กรได้อย่างไร สำหรับใครที่สนใจนำ AI มาใช้ในงาน HR อื่น ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ 5 บทบาทสำคัญของ AI ที่จะมาช่วยให้งาน HR ง่ายขึ้น


เชื่อไหมคะว่าในปัจจุบันนี้องค์กรใหญ่ ๆ ไม่ได้คัดเลือก CV หรือ Resume (เรซูเม่) รอบแรกด้วยคนอีกต่อไปแล้ว และเลือกใช้ระบบ AI ในการคัดเลือกคนจาก CV หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า ถ้าตอนนี้เรากำลังหว่านเรซูเม่เพื่อหางานอยู่นั้น คนที่เห็นเรซูเม่เราเป็น คนแรกๆ อาจจะไม่ใช่ HR หรือ Recruiter แต่เป็น AI !!


ตัวอย่างองค์กรระดับโลกที่หันมาใช้ AI ในการคัดกรอง Resume อาทิ Amazon TikTok Agoda เป็นต้น องค์กรเหล่านี้มีการนำ AI มาใช้กับคำค้นหาสำคัญ (Keyword) ที่อยู่ใน Resume ของผู้สมัครงานเพื่อช่วย HR ดูว่า Resume ใบใดที่เหมาะสมกับภาระงานที่กำหนด โดยการใช้ AI สำหรับ HR ในการกรองคนนั้นช่วยประหยัดเวลา เพิ่มจำนวน Candidate หรือ ผู้สมัครที่เข้าตา รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแผนกสรรหาบุคลากร (Recruitment) ได้เป็นอย่างมาก


มาดูกันในรายละเอียดว่า AI จะมีบทบาทเข้ามาช่วยในการรับสมัครงานได้อย่างไรบ้าง

ยุคนี้สมัครงานกับ AI ได้ด้วยเหรอ

1. Resume เยอะแค่ไหน AI ช่วยคัดได้

เนื่องจากการทำงานของฝ่าย Recruitment นั้นมีหลายขั้นตอน ซึ่งกระบวนการทำงานนี้ค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน การนำ AI เข้ามาช่วยในการทำงาน จะทำให้สามารถจำแนกและจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัครจำนวนมากให้เป็นระบบได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ลองเปรียบเทียบดูง่าย ๆ ว่าถ้าหากคุณเปิดรับสมัครพนักงานใหม่ 3 อัตรา และแต่ละอัตรามีผู้สมัครส่งเรซูเม่มาอย่างน้อยอัตราละ 200 ฉบับ คุณต้องใช้เวลามากขนาดในไหนการตรวจสอบ และคัดเลือกผู้สมัครที่น่าจะเหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งงานที่เปิดรับไว้ และโอกาสที่จะเกิดการตาพร่าจนอาจจะหลุดผู้สมัครที่เหมาะกับองค์กร


2. เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการค้นหาผู้สมัคร

ในขั้นตอนคัดกรองผู้สมัคร AI จะถูกพัฒนาให้สามารถทำหน้าที่กำหนด Job Description หรือภาระงาน ที่เหมาะสมได้ โดย AI จะช่วยระบุตำแหน่งงาน คุณสมบัติของผู้สมัคร หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดได้ รวมทั้งความสัมพันธ์ในโครงสร้างองค์กร โดย AI จะแสดงข้อมูลเชิงลึก เปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้สมัครแต่ละคน และสุดท้ายจะช่วยพิจารณาเสนอชื่อผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นมากที่สุด


เมื่อคุณตั้งค่า AI เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ทำต่อไปคือการนำเรซูเม่ที่มีเข้าไปใส่ในระบบ เพื่อให้ AI ช่วยคัดกรองจากค่าต่าง ๆ ที่ได้ระบุไว้ ซึ่งการคัดกรองด้วย AI นี้ช่วยเพิ่มความเร็วในการกรองคนในขั้นตอนแรก ๆ ได้เป็นอย่างมาก


3. ลดต้นทุน ลดเวลา ลดขั้นตอนการรับสมัครพนักงานใหม่

อีกหนึ่งข้อดีของ AI คือสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ได้ในเวลาอันสั้นและแม่นยำ การใช้ AI มาช่วยสรรหาบุคลากรจะช่วยลดเวลา ลดภาระ และความผิดพลาดจากมนุษย์ ที่จะต้องอ่านเรซูเม่ของผู้สมัครหลายร้อยคน หรือหลายพันคน ในบางกรณี บริษัทอาจใช้ AI Chatbot เพื่อติดต่อกับผู้สมัครโดยตรง สามารถตอบคำถามของ Candidate ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องผ่านนายหน้าหรือบริษัทรับจัดหางาน ช่วยลดต้นทุนของบริษัท ประหยัดเวลาการทำงานไปได้อีกเยอะ


รวมถึงยังสามารถใช้ AI รวมกับการทำแบบทดสอบเพื่อคัดกรองคุณสมบัติบ้างประการของผู้สมัครที่จำเป็นต้องมีทักษะตามเกณฑ์ขององค์กรที่ไม่สามารถประเมินได้จากเรซูเม่ จะช่วยลดเวลา HR ในการตัดเตรียมการสอบของผู้สมัครในแต่ละรอบได้เป็นอย่างมาก


4. เป็นด่านหน้าในการคัดกรองผู้สมัคร

การตั้งค่า AI ให้ครอบคลุมนั้นจะสามารถช่วย HR ในการคัดกรองข้อมูลที่สำคัญจากประวัติการทำงาน ประวัติการศึกษา และทักษะอื่น ๆ ของผู้สมัคร เพื่อช่วยในการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการคัดจากเรซูเม่ การคัดการทำแบบทดสอบ และการตอบคำถามจากผู้สมัครโดยอัตโนมัติ


จากที่กล่าวมานั้นจะเห็นได้ว่าระบบ AI สามารถให้การประเมินทักษะของผู้สมัครโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถวัดความสามารถและความเหมาะสมของผู้สมัครได้อย่างทันที สามารถรองรับการส่งเรซูเม่เข้ามาสมัครพร้อมกันจำนวนมาก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. ลดอคติและเพิ่มความเท่าเทียมของ HR

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคลและข้อมูลเชิงลึกในระหว่างกระบวนการสัมภาษณ์ ที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยปราศจากอารมณ์หรืออคติของ HR เอง หรือการตัดสินด้วยการใช้มาตรฐานความงาม เช่น รูปร่างหน้าตา หรือ ลักษณะทางกายภาพของผู้สมัคร เป็นต้น


ลดอคติและเพิ่มความเท่าเทียมของ HR

ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ AI ในการเลือกเฟ้นเรซูเม่

ถึงแม้ว่าการนำ AI เข้ามาช่วย HR ในการคัดกรองเรซูเม่นั้นจะมีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุน และคัดเลือกผู้สมัครได้ทันท่วงที แต่กระนั้นการใช้ AI ในส่วนของ HR ยังมีข้อเสียที่ไม่อาจมองข้ามได้ ดังนี้

1. AI ยังคงต้องพึ่งพามนุษย์

ในตำแหน่ง HR หรือ Recruiter จำเป็นต้องมีการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สรรหากับผู้สมัครอยู่เสมอ เพราะหลายครั้งเราก็ไม่ได้ประเมินผู้สมัครจากทักษะ Hard Skill เช่นวุฒิการศึกษา อายุ หรือประสบการณ์ที่เขียนไว้ในเรซูเม่เท่านั้น แต่ต้องประเมินทักษะในส่วน Soft Skill เช่นการสื่อสาร การแก้ปัญหา ความทุ่มเทตั้งใจของผู้สมัคร หรือแรงจูงใจในการทำงานด้วย ซึ่งหลาย ๆ ทักษะนั้นผู้สมัครอาจจะไม่ได้เขียนไว้ในเรซูเม่ หากตั้งค่า AI ไม่ครอบคลุม หรือไม่มีแบบทดสอบประกอบ ก็อาจจะทำให้องค์กรพลาดจากบุคลากรที่เหมาะสมได้


อีกทั้งในหลาย ๆ กรณีที่ผู้สมัครเขียนเรซูเม่เกินความสามารถ การใช้ AI คัดแยกนั้นอาจจะไม่สามารถแยกแยะได้ดีเท่ามนุษย์

2. AI อาจจะยังไม่หลุดพ้นจากอคติ 100%

การใช้ AI ก็ยังมีช่องโหว่อยู่ เนื่องจาก AI จะสามารถทำงานได้จากข้อมูลหรือถูกป้อนข้อมูลโดยมนุษย์ และบางครั้งขั้นตอนการลงข้อมูลนั้นอาจจจะมีอคติแอบแฝงอยู่ ซึ่งทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมจากการเลือกปฏิบัติของ AI โดยไม่รู้ตัว

อคติที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องเพศเท่านั้น แต่อาจจะเป็นระดับการศึกษา สถาบันการศึกษา อายุ หรือเชื้อชาติ เป็นต้น


จะเห็นได้ว่าข้อเสียของ AI สำหรับ HR นั้นยังคงเกี่ยวข้องกับคน โดยเฉพาะคนที่เป็นฝ่ายป้อนข้อมูลเข้าไป ดังนั้นการใช้ AI ในการคัดเลือกบุคลากรนั้น จึงควรจะต้องคิด วางแผน และวางระบบอย่างรอบคอบ มีโซลูชั่นให้ครอบคลุมทั้งในส่วนการคัดกรองหรือการตรวจสอบเรซูเม่ ในส่วนแบบทดสอบออนไลน์ และในส่วนอื่น ๆ เพื่อทดสอบทักษะที่จำเป็น


ในอนาคต AI จะเข้ามาแทนที่ HR ได้หรือไม่


บอกได้เลยว่า AI นั้น ไม่สามารถการแทนที่ HR หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลในการทำงานแบบได้ 100% เนื่องจาก HR เป็นแผนกที่เกี่ยวข้องกับคน ถึงเราจะสามารถเทรน AI ได้ดีขนาดไหนก็ไม่เท่ากัน HR ที่มีประสบการณ์อยู่ดี


แต่ในมุมมองของธุรกิจนั้นจากนำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้กับงานด้าน HR ก็เพื่อลดต้นทุน ลดระยะเวลาในการทำงานประจำที่ไม่เกิดมูลค่า และเพิ่มประสิทธิภาพให้ HR สามารถทำงานได้เต็มความสามารถ


ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีแรงต้าน การเริ่มเอา AI มาใช้ในองค์กร จะเกิดการต่อต้านจากพนักงานหรือไม่ เป็นสิ่งที่ผู้บริหารในองค์กรต้องไตร่ตรองให้ดีและรอบคอบที่สุด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าให้ดีที่สุด


สุดท้ายแล้ว ในอนาคตเทคโนโลยีตัวใหม่ๆก็อาจจะเกิดขึ้น AI ก็มีการพัฒนาความสามารถและรูปแบบขึ้นอีก เราในฐานะคนทำงานก็มีหน้าที่ ที่ต้องปรับตัวและรับมือกับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นต่อไป


สนใจสอบถาม Solution ทางด้าน HR สามารถติดต่อ X10 ได้ที่

: 02-693-1989






28 views0 comments
bottom of page