API ย่อมาจาก Application Programming Interface เป็นชุดของโปรโตคอล และเครื่องมือสำหรับการพัฒนา ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบที่มีขนาดใหญ่และต้องใช้การเชื่อมต่อจำนวนมาก โดยโปรโตคอลเหล่านี้กำหนดวิธีที่โปรแกรมซอฟต์แวร์ตั้งแต่สองโปรแกรมขึ้นไปควรโต้ตอบกัน ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารระหว่างระบบต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกลับไปแก้ไขโค้ดเพื่อให้แต่ละระบบสามารถเชื่อมต่อกันได้
เริ่มต้นพัฒนา API
การพัฒนา API นั้นเปรียบเสมือนการพัฒนาระบบหนึ่งเพิ่มเติมขึ้นมา ดังนั้นการวางแผนเพื่อให้ระบบ API นั้นสามารถทำงานได้ตามความต้องการของฝั่งธุรกิจ (Business perspective) จึงมีความสำคัญมาก หากความต้องการในการใช้งานไม่ชัดเจนจะทำให้การพัฒนา API นั้นมีประสิทธิภาพไม่เต็มที่
ขั้นตอนการวางแผนพัฒนา API โดยทั่วไปมีดังนี้
1. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายสำหรับการใช้งาน API
ทีมพัฒนาต้องประชุมกับทีมธุรกิจเพื่อได้ข้อกำหนดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
วัตถุประสงค์ของ API
ข้อมูลที่จะจัดเตรียม
วิธีการนำไปใช้
ระบุกลุ่มเป้าหมาย
ความต้องการเฉพาะของผู้ใช้
การกำหนดสิทธิ
ขนาดของข้อมูล
สถาณการณ์ที่อาจจะทำให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
2. ออกแบบจุดสิ้นสุด (Endpoints) และวิธีการ (Method)
ทีมต้องกำหนดจุดสิ้นสุด URL หรือ Endpoint ที่จะถูกเปิดเผย เพื่อจัดการกับคำขอที่จะถูกส่งเข้ามา และการส่งข้อมูลตอบกลับ โดยใช้วิธีการที่เป็นมาตรฐาน เช่น REST (Representational State Transfer) หรือ GraphQL เพื่อกำหนดโครงสร้างของ API และวิธีการ (Method) อาทิ GET, POST, PUT, DELETE
โดยจุดสิ้นสุด และวิธีการต้องออกแบบมาให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ทีมพัฒนาสามารถเข้าใจและใช้ API ได้ง่ายขึ้น
3. เลือกภาษาโปรแกรมและเฟรมเวิร์ก (Framework)
ต้องคุยกันในทีมถึงภาษาและเฟรมเวิร์กที่เหมาะสมกับงาน และทีมสามารถพัฒนาต่อได้ ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการสร้าง API ได้แก่ Node.js พร้อม Express, Python พร้อม Flask หรือ Django และ Java พร้อม Spring
4. กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย
การกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญในการพัฒนา API ทีมพัฒนาและทีมที่เกี่ยวข้องต้องระดมความคิดเพื่อระบุความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นและใช้มาตรการต่างๆ เช่น การพิสูจน์ตัวตน การเข้ารหัส และการจำกัดอัตราการเข้าถึง เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและการใช้งานในทางที่ผิด
5. ทดสอบและจัดทำเอกสาร
ทดสอบ API อย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานตามที่วางแผนไว้และไม่มีข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่อง จัดเตรียมเอกสารที่ชัดเจนและครอบคลุมเพื่อให้นักพัฒนาเข้าใจและใช้ API ได้ง่าย ทั้งในส่วนจุดสิ้นสุด (Endpoint) วิธีการ (Method) พารามิเตอร์ และการตอบสนองที่ดาดไว้
6. การปรับใช้และการบำรุงรักษา
เมื่อทีมได้พัฒนา API เสร็จสิ้นจนสามารถนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมจริง (Production) ที่จะถูกเข้าถึงได้โดยระบบจากภายนอกให้ตรวจสอบการใช้งาน และทีมต้องวางแผนให้แน่ใจว่า API ที่ทำนั้นได้มีแผนการบำรุงรักษา ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ อัปเดต และแก้ไขปัญหา API อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขนาดจากคำขอของผู้ใช้งานที่จะเพิ่มมากขึ้นหลังจากการใช้งานไปเรื่อย ๆ
6 สิ่งสำคัญในการพัฒนา API ให้ประสบความสำเร็จ
การพัฒนา API ให้สำเร็จได้ตามความต้องการของทีมธุรกิจ จะช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาระบบ หรือแอฟพลิเคชันอื่น ๆ ที่องค์กรต้องการได้อย่างมหาศาล ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ทว่าการพัฒนา API นั้นมีความซับซ้อน ทั้งในเชิงการพัฒนาและความต้องการของธุรกิจ ก่อนเริ่มพัฒนาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะประชุมร่วมกันเพื่อหาความต้องการที่แท้จริง และระหว่างพัฒนาก็ควรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้งาน แนะนำ และให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
โดยมีข้อปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best practice) ในการพัฒนา API ที่ต้องโฟกัสเพื่อความสำเร็จของ API ดังนี้
1. การออกแบบ
การออกแบบ API เป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของการพัฒนา API โดย API ที่ออกแบบมาอย่างดีควรใช้งานง่าย สอดคล้อง และยืดหยุ่น โดยมีอินเทอร์เฟซ (Interface) ที่ชัดเจน และใช้งานง่ายสำหรับนักพัฒนา การออกแบบ API ที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดความสับสน ทำให้นักพัฒนาเข้าใจและใช้ API ได้ยาก
2. ความปลอดภัย
ความปลอดภัยของ API เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนสำหรับการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นของกระบวนการพัฒนา และนำมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เช่น การพิสูจน์ตัวตน การอนุญาต การเข้ารหัส และการจำกัดอัตรา
3. การทดสอบและการประกันคุณภาพ
การทดสอบอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่า API ทำงานตามที่คาดไว้และไม่มีข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่อง ซึ่งรวมถึงการทดสอบการทำงาน การทดสอบประสิทธิภาพ และการทดสอบความปลอดภัย
4. เอกสารประกอบ
เอกสารประกอบที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ API เพื่อให้นักพัฒนาเข้าใจและใช้งานได้ง่าย ควรมีคำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีใช้ API ตัวอย่างคำขอและการตอบสนอง และข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่อาจพบ
5. ความสามารถในการปรับขนาด (Scale)
API ควรออกแบบมาเพื่อรองรับคำขอจำนวนมากและปรับขนาดตามจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้แคช การจัดสรรภาระงาน และเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่า API สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มขึ้นได้
6. การบำรุงรักษาและการสนับสนุน
ควรตรวจสอบและอัปเดต API เป็นประจำเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องหรือช่องโหว่ และเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงทำงานต่อไปตามที่คาดไว้ การให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ API ก็มีความสำคัญเช่นกัน
ทั่วไปแล้วทุกส่วนของ API นั้นมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 6 ข้อที่ได้กล่าวมาข้างตนนั้นถือเป็นข้อปฏิบัติที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งานเฉพาะและข้อกำหนดของ API รวมถึงความต้องการขององค์กร
สิ่งสำคัญคือ API ที่ออกแบบอย่างดี ปลอดภัย และแข็งแกร่งสามารถเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับองค์กรได้ ในขณะที่ API ที่ออกแบบไม่ดี ไม่ปลอดภัย และไม่น่าเชื่อถืออาจทำลายชื่อเสียงขององค์กรและก่อให้เกิดความสูญเสียทางการเงินอย่างมาก
บริษัท เอคซเทนด์ ไอที รีซอร์ส จำกัด มีนักพัฒนา API ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการ implement ให้กับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่จำนวนมากในอุตสาหกรรมธนาคาร (FSI) รีเทล (Retail) และ สุขภาพ (Health) หากองค์กรท่านต้องการรับคำปรึกษาในการวาง implement strategy การวางโครงสร้าง การพัฒนา API รวมถึงการดูแลรักษา API สามารถติดต่อมาได้ที่
☎️: 02-693-1989
✉️: Sales@extend-it-resource.com
Comments